ม่อนกองข้าว ปุยหลวง ปุยน้อย ลุ่มน้ำแม่เงา
จ.แม่ฮ่องสอน มีเส้นทางธรรมชาติ และยอดดอย เที่ยวชมทะเลหมอกมากมายอาทิ ม่อนกิ่วลม ม่อนครูบาใส ม่อนปุยหมอก ดอยทูเล ม่อนคลุย พุ่ยโค ซึ่งที่กล่าวมานั้น เป็นทะเลหมอกจากลุ่มแม่น้ำเมย วันนี้จะพามาเดินเส้นทาง ทะเลหมอกอีกเส้นหนึ่ง คือ ดอยปุยหลวง ปุยน้อย เป็นทะเลหมอกแถบตะวันตก ตาก-แม่ฮ่องสอน เป็น ทะเลหมอกที่เกิดจากลุ่มแม่น้ำแม่เงา … ปะปะ … จะพาไปเที่ยวครับ
ดอยปุยหลวง ปุยน้อย อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ แม่เงา อำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติแม่เงา ก่อนเข้าอุทยานจะมีด่านตรวจ ตรงรอยต่อจังหวัด เราเดินทางมาที่นี่ เพราะนัดเปลี่ยนรถ 4×4 กับนัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และนัดลูกหาบไว้ นัดเวลาไว้ 9 โมงเช้า
รถกะบะ 4×4 ของเจ้าหน้าที่ นำคณะ เดินทางจากอุทยาน เข้ามาจุดเริ่มต้นเดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง กับระยะทาง 21 กิโลเมตร
ตรงนี้ยังไม่ใช่จุดเริ่มต้นเดิน ต้องนั่งรถกะบะ เบี้ยงลงไปทางขวา แต่เนื่องจาก คนขับ ยังไม่ชำนาญเส้นทาง เลยต้องรอ รถกะบะ อีกคัน
เส้นทางสู่จุดเริ่มต้นเดินเท้า
คณะเราเดินทางมาถึง จุดเริ่มต้นเดินเท้า ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 2 ชั่วโมง กับระยะทาง 21 กิโลเมตร ไต่ความสูงประมาณ 1,240 เมตร เรียกว่านั่ง (บางคนยืน) กันเมื่อยเลย อย่าลืมเตรียม อาหารมื้อเที่ยง และน้ำดื่ม อย่างน้อย 2 ขวด สำหรับกินระหว่างทาง
เส้นทางเดิน เป็นทุ่งหญ้า สลับป่าเป็นระยะๆ ต้องพกน้ำ หรือเครื่องดื่ม ไปเยอะๆ หน่อย เพราะเส้นทางค่อนข้างไกล บางช่วงที่เป็นทางราบ เจอแดดตรงๆ ยิ่งทำให้ความร้อนเพิ่มมากขึ้น”
หลังจากเดินตัดป่า ตามทางเดินไปตามสันดอย อันเป็นตะเข็บรอยต่อจังหวัด มุ่งเดินหน้าลงทางทิศใต้ ซ้ายของเราเวลานี้คือทิศตะวันออก จะเป็นพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนด้านขวามือของเราเป็นทิศตะวันตก เป็นท้องที่ สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และเป็นพื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติแม่เงาทั้งหมดนั่นเอง ใครชอบวิ่งเทรล น่าจะชอบ ภูมิประเทศแบบนี้
ถ้าเจอทางราบแบบนี้ แสดงว่าใกล้จะถึงแล้ว พื้นที่ราบไกลๆ ที่เห็นคือจุดหมายปลายทาง ที่จะพักแรมคืนแรก
จากจุดเริ่มต้นสู่ ม่อนกองข้าว
ม่อนกองข้าว คือจุดหมายที่ คณะเรา จะกางเต๊นท์ ค้างแรม มีลักษณะภูมิประเทศเป็น ดอย โล้นๆ ที่มีแต่ต้นหญ้า ไม่มีต้นไม้ใหญ่ แสดงว่า ใต้ดินอาจเป็นหิน ไม่เหมาะต่อต้นไม้ใหญ่ เจริญเติบโต
ม่อนกองข้าว
ใช้ระยะเวลา 2 ชั่วโมง กับระยะทาง 3 กิโล กว่า (มีแวะกินข้าวเที่ยง ระหว่างทาง) แสงอาทิตย์ ที่ลอยอยู่ฝั่งทิศตะวันตก สาดมา ทำให้ ม่อนกองข้าวก็กลายเป็น ม่อนแสง สีทองผ่อง อำไพ ตัดกับท้องฟ้าหน้าหนาว สวยงามมาก ม่องกองข้าว มีควรสูงจากระดับน้ำทะเลความสูง 1,180 เมตร จากระดับน้ำทะเล
จัดการตั้งแคมป์ กางเต๊นท์ เตรียมทำอาหาร และรอพระอาทิตย์ ตกดิน อากาศตอนนี้เริ่มเย็น
จุดชมวิวม่อนกองข้าว
อยากจะชมพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ ที่นี่ แค่เดินขึ้นยอด ม่อนกองข้าว ที่อยู่ข้างๆ แคมป์ เรานี่เอง ง่ายๆ และสบาย
เก็บภาพบรรยากาศ เพราะอาทิตย์ตกดิน ได้ไม่รู้เบื่อเลย ประทับใจ กับอากาศๆ หนาวๆ
ปลดปล่อย ความเหนื่อยล้า มาทั้งวัน ปล่อยทุกอย่างทิ้งไป กับที่ยอดม่อนกองข้าว แห่งนี้
พออาทิตย์ลับขอบฟ้า ความหนาวเย็น ก็เข้ามาปกคลุม ทันที
ดึกคืนนั้น ฟ้าเปิดมาก สนุกกันต่อกับหมู่ดาวนับล้านดวง มีเงาม่อนกองข้าวสลัวๆ ปรากฎในความมืด
ส่วนใครที่ คุย หยอกเย้า พูดเล่าประสบการณ์ เฮฮา ก็ไปที่เต๊นท์ ใหญ่ ตาม
รางวัลของคนตื่นเช้า
เช้านี้เราตื่นตั้งแต่ตี 5 หนีบ เตาแก๊ส กระป๋อง กับ กาต้มน้ำ ไปชงกาแฟ นั่งชม บรรยากาศ ยามเช้า และ ทะเลหมอกแห่งลุ่มน้ำแม่เงา บยยอด ม่อนกองข้าว หมอกล้นทะลักมาจ่อเกือบสันดอย นาทีนี้บอกกับตัวเองทันทีว่า คุ้มมาก รางวัลของคนตื่นเช้า
ประมาณ 7-8 โมง ก็ต้องลงมาจากยอดม่อนกองข้าว มาเก็บสัมภาระ และ กินมื้อเช้า เพราะวันนี้ คณะเราจะเดินเท้า ไป ดอยปุยหลวง และปลายทาง คือ ปุยน้อยเพื่อตั้งแคมป์ มีระยะทาง เดินรวม ค่อนข้างไกล กว่าวันแรก พอควร
คณะเรามุ่งหน้าเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปของเรา คือยอดดอยปุยหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่ อช. ที่คอยดูแล ตลอดเส้นทาง ไม่หลงป่าแน่นอน
เส้นทางเดินระหว่างทาง เป็นแบบนี้ อยากจะนั่งหยุดเวลา ตรงนี้
วิวสวยๆ ตลอด เส้นทางเดินเท้าระหว่างทางไปดอยปุยหลวง
ม่อนกองข้าว – ดอยปุยหลวง – ดอยปุยน้อย
เส้นทางวันที่สอง จากม่อนกองข้าว ผ่าน ดอยปุยหลวง เพื่อไปดอยปุยน้อย เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างไกล ใช้เวลาเดินทาง กันเกือบ 6-7 ชม. กับระยะทาง 12 กิโล กว่าจะถึงเกือบเย็น
แต่เส้นทางเดิน นั้นบอกได้เลยว่า อย่างกะสวรรค์ ที่ใช้เวลาเดินเยอะ เพราะอาจมัวแต่ ถ่ายรูป ชมวิว
ดอกขาวแม่สะเรียง มีกระจายอยู่เต็มไป บนเขา
มีหมอก มาปะทะ อยู่ตลอดเวลา
เหนื่อยนัก พักบ้าง กับภาพวิว ที่อยู่ตรงหน้า
ดอยปุยหลวง
ใช้เวลา เดินเท้า 4 ชั่วโมง ก็ถึง ดอยปุยหลวง พื้นที่เป็นลานกว้างพอสมควร สามารถมาตั้งแคมป์ กางเต๊นท์ได้ แต่เพราะที่นี่ไม่มีแหล่งน้ำ ทำให้เราต้องเดินเท้าต่อไปยัง ดอยปุยน้อย ที่ดอยปุยหลวงมีความสูง 1,660 เมตร มองไกลๆ ออกไป จะเห็นดอยทูเล ด้วย
ดอยปุยน้อย ตั้งแคมป์คืนที่สอง
เดินเท้าต่อไปราว 2-3 ชั่วโมง ก็ถึงยอดปุยน้อย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,460 เมตร คืนนี้เราพักค้างแรมที่นี่ และเย็นนี้ จะเดินไปชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่อยู่อีกด้านหลังของจุดตั้งแค้มป์ ของเขา ไม่ไกล มาก แต่ต้องเดินขึ้นเขา
จุดชมวิว พระอาทิตย์ตกดินใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที จากจุดตั้งแคมป์ ไปทางทิศใต้ ต้องเดินตัดขึ้นยอดดอยซึ่งไม่สูงมาก ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน แนะนำเลย ว่าต้องมา เพราะมันสวยมาก ผสมกับดอก ขาวแม่สะเรียง กระจายเต็มพื้นที่
จุดชมวิว นอกจากจะมาชม พระอาทิตย์ตกดิน แล้ว ในตอนเช้า สามารถมาชมพระอาทิตย์ขึ้น อีกด้านฝั่งตรงข้าม ได้เลย
มีพระจันทร์ ที่ยังลอย ยังไม่ลับขอบฟ้า ในเวลายามเย็น ฝั่งตะวันออก
ดอกขาวแม่สะเรียง กับวิว พระอาทิตย์ ตกดิน ช่างโรแมนติคมาก
เย็นย่ำค่ำลง แสงอาทิตย์หมดไป ล้อมวงเสวนา ตามประสาผองเพื่อน คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เหนื่อยยากลำบาก กาย ร้อนแค่ไหน ตอนนี้พวกเรามีความสุขที่ได้พูดคุยกัน
เช้าวันใหม่ ที่ดอยปุยน้อย
เปิดหน้าจอมือถือ เพื่อดูเวลา บอกว่าเป็นเวลาหกโมงเช้า ไฮไลท์ของทริปนี้อย่างอย่างนึง กำลังรอเราอยู่ใกล้ๆ บนยอดปุยน้อย ข้างๆ กันนี่ ไฟฉายคาดหัวพร้อม ลุย กลับไปจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน อีกครั้ง เพื่อไปชม พระอาทิตย์ขึ้นกัน
ค่อยๆ โผล่มาแล้ว พระเอกของเราวันนี้
ทะเลหมอกแม่เงา
ผืนแผ่นดินใหญ่อลังการ สุดลูกหูลูกตา ยังกับมหาสมุทรของทะเลหมอก ความเหนื่อยล้าที่เดินมาอย่างหนักตลอดวันเมื่อวาน 12 กิโล ที่ยังเหนื่อยล้า อยู่บ้าง แต่วินาทีที่เห็นภาพตรงหน้านี้บอกคำเดียวว่าคุ้มค่า ที่สุดในชีวิต ครั้งหนึ่ง
จุดชมวิวผาแดง / จุดชมวิวยอดดอยปุยน้อย
ณ. เบื้องหน้า จุดชมวิว ปุยน้อยสูงประมาณ 1,470 เมตร สูงกว่าที่ จุดกางเต๊นท์แค้มป์นิดเดียว แต่ทางตัด ขึ้นชัน นิดหน่อย เส้นทางเดียวกับ ไปดูกระอาทิตย์ตกดิน แต่มาเดินแต่เช้า ร่างกาย ยังไม่ปรับตัว เล่นเอาหอบได้ ค่อยๆ มุดป่าทึบๆ เปิดไฟฉายคาดหัว งมฝ่าความมืดกันมา แป๊บเดียว 400 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ฝั่งด้านใต้นี้เป็นม่อนเล็กๆแต่พื้นที่มันแคบกว่า แต่ก็สามารถมากางเต็นท์นอนกันแถวนี้ได้ เช่นกัน
บริเวณนี้พื้นที่ตั้งแต่ม่อนที่เรายืน ไปจรดยอดเขาลิบๆตรงหน้านั้น ที่เป็นหน้าผาสูงชันเกลี้ยงๆ ยามเย็นๆ แสงทองสาดมาจากฟากตะวันตกจะกลายเป็นผาสีออกทองๆแดงๆ ก็เลยเป็นที่มาของอีกชื่อเรียกขาน ว่า ผาแดง คงเพราะแสงจากพระอทิตย์ตกกระทบเลยทำให้แดง แต่ดูจากรูป พระอาทิตย์ขึ้นก็ทำให้แดง เช่นกัน
หลังจากถ่ายรูป ดื่มด่ำบรรยากาศ จนได้ที่ ต้องรีบลงไป เก็บสัมภาระ กินมื้อเช้า เพื่อเตรียมตัวเดินลง
วันนี้น่าจะง่ายหน่อย มีแต่เดินลงและลงอย่างเดียว
เส้นทางเดินระหว่างทาง โอ๊ย ใจละลาย
เดินประมาณ 500 เมตร ก็ทะลุมาโผล่อีกด้านหนึ่งของปุยน้อย หรือผาแดงซีกตะวันตก ก็มาเจอกับทะเลหมอกกันอีกครั้ง นี่คือเวลาเกือบ 9 โมงแล้วนะ
ตัดใจกับ ทะเลหมอก และวิวทิวเขาสวยๆ ไม่ไหว ขอนั่ง ซึมซับมันอีกสักพัก ใจละลาย
เดินมาได้เกือบ ชั่วโมง ประมาณ 2-3 กิโล ทางเริ่มเปลี่ยนเป็นลาดชัน เดินไม่ยากเพราะมีต้นไม้ให้เบรคตลอดทาง ลงกันยาวๆ เดิน ลงอย่างเดียว
ใช้เวลาเดินกันเกือบ 5 ชม. ก็ถึงจุดที่นัดรถกะบะ 4×4 ที่เห็นจอดอยู่ลิบๆ ที่จะพาพวกเรากลับไป อุทยานแห่งชาติแม่เงา
23 กิโล มุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติ แม่เงา
รถกะบะพาพวกเราลงเขา ระยะทาง 7 กิโล แล้วต่อด้วยเส้นทางเลียบไปกันสายน้ำแม่เงาอีก 16 โล ก็ถึงโซนกางเต็นท์บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานฯ ตามแผนควรจะเป็นแบบนี้ ใช่มะ?
แต่ระหว่างทางเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะอุปกรณ์ Free Lock ของล้อ เกิดชำรุดขึ้นมา ทำให้ล้อล๊อค กลิ่นยางเหม็นคลุ้งไปหมด ต้องตะโกน บอก คนขับรถ ให้จอด ต้องจอดซ่อมกันระหว่างทางเลย ให้ตื่นเต้น … เพราะหนทางยังอีกยาวไกล แต่ในที่สุด ก็ซ่อมได้ แล้วเดินทางกลับถึง อุทยานแห่งชาติ แม่เงา โดยสวัสดิภาพ
บทสรุปส่งท้าย
- เส้นทางเดินป่าดอยปุยหลวง ปุยน้อย แม่เงา ยังไม่ใช่ดอยตลาด ใครที่ชอบธรรมชาติ แบบไม่ชอบคนมาก น่าจะชอบที่นี่
- เส้นทางเดินมีหนัก สลับเบา จะหนักในเส้นทางเดินวันที่ 2 จาก ม่อนกองข้าว ไปดอยปุยน้อย เพราะเดินไกลตั้ง 12 กิโลเมตร
- เตรียมอุปกรณ์ยังชีพ อาหารไปกันเอง
- เส้นทางนี้พอหาแหล่งน้ำ ได้บ้าง หากมีลูกหาบ เขาไปหาแหล่งน้ำให้ แต่ต้องใช้สอยอย่างประหยัด ไม่มีน้ำอาบนะ ถ้าหน้าแล้ง จะลำบาก ต้องพกน้ำ ไปเอง
- วิวทางเดินระหว่างทางสวยมากๆ ในสามโลก สวยไม่ซ้ำ
- เส้นทางเดินง่าย ทางชัดไม่ซับซ้อน ทางชันมีไม่มาก แต่ถ้าไม่คุ้นทาง ผมว่าหลงทางได้ง่ายๆ
- ใครสนใจเที่ยวที่นี่ต้องติดต่อ อุทยานแห่งชาติแม่เงา และรถ 4×4 ล่วงหน้า ก่อนเสมอ เพราะต้องมีจนท.นำทางเสมอ และจำเป็นต้องมีลูกหาบ ไม่มีก็ได้ ถ้าแบกสัมภาระเองไหว
- ลิงค์และเบอร์ติดต่ออุทยานฯแม่เงา อุทยานแห่งชาติแม่เงา (เตรียมการ)
หมู่ 8 บ้านแม่เงา ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน 58110 . โทรศัพท์ : 053-071471