SundayZ.me

Storytelling Through Travel Photography

Trekkingเที่ยวไทย

พาเที่ยว ภูกระดึงหน้าร้อน มนต์เสน่ห์ที่แตกต่าง


ภูกระดึง หน้าร้อน

ภูกระดึง ชื่อที่คุ้นเคย สำหรับ นักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบธรรมชาติ สถานที่ แสนจะมีเสน่ห์  มันไม่ใช่ที่ๆ สวยที่สุด แต่เป็นสถานที่ๆ ลงตัวและมีมนต์ขลังที่สุด แห่งหนึ่ง เป็นปฐมบทของการเดินป่า เที่ยวธรรมชาติ ของใครต่อหลายคน แม้กระทั่งผม ก็เริ่มต้นเดินป่าครั้งแรก ก็ที่นี่ ภูกระดึง ทำให้ คุ้นเคย และผูกพันธ์กับที่นี่พอสมควร เคยมา ทั้งหน้าฝน และหน้าหนาว (บ่อยสุด) แต่ละช่วง ความสวยงาม ก็แตกต่างกันออกแบบ ไม่ซ้ำกัน ในแบบของมันฉบับของมันเอง

แต่คราวนี้ จะลองขึ้นภูกระดึงหน้าร้อน บ้าง เป็นครั้งแรก .. ภูกระดึง ฤดู หน้าร้อน ดอกไม้ ต่างๆ บนนั้น จะผลิ ดอกสวยงาม..


มาภูกระดึง ช่วงหน้าร้อนต้องทำใจเรื่อง จำนวนนักท่องเที่ยว มีน้อย (มาก) การนั่งรถแดง เข้าอุทยาน อาจต้องเหมาเข้าไปเอง ไม่มีคนช่วยหาร ทริปนี้

หลังจากลงรถทัวร์ ประมาณ 6 โมงเช้า ที่ร้านเจ๊กิม นั่งรอเป็น ชั่วโมง ไม่มีวี่แววของนักท่องเที่ยว ที่จะ เข้าภูกระดึงเลย สรุปจึงต้องเหมาเดี่ยว (ราคาเหมารถแดงเข้าอุทยานก็ 300 บาท)

นั่งคนเดียว จะย้ายที่นั่ง บนรถ ตรงไหนก็ได้

เมื่อมาถึงที่การอุทยาน ตามคาดคือไม่พบเจอนักท่องเที่ยวเลย บรรยากาศแตกต่างจากที่คุ้นตาในช่วงหน้าฝน หรือ หน้าหนาว เจ้าหน้าที่บอกว่าผมคือนักท่องเที่ยวคนแรกของวันนี้

เรื่องลูกหาบ ขาขึ้น ยังพอมีครับ (แต่ก็น้อย) แต่มีลูกหาบแค่วันละรอบ และเขาจะรอน้ำหนัก ให้ครบก่อน  ถึงเริ่มเดินขึ้น (เพราะฉะนั้นสัมภาระอาจถึงช้า) ส่วนขาลง ให้สอบถามเจ้าหน้าที่ ล่วงหน้า 1 วันเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิม คือ ลูกหาบ มีแค่วันละรอบ เท่านั้น และอาจมีแค่ 1-2 คน หากไม่มีจริงๆ อาจต้องแบกสัมภาระ เดินลงเขาเอง


หลังจากชำระค่าธรรมเนียม และกินมื้อเช้าที่ร้านอาหาร ที่ยังเปิดขายปกติอยู่ 2-3 ร้าน ก็รอเวลา 7:30 ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ อย่าลืมพกน้ำดื่ม พวกขนม ติดตัวไปบ้างที่ซำแฮกเป็นที่จุดเดียวที่ร้านค้ายังเปิดบ้าง (ไม่ครบทุกร้าน) แต่หลังจากนั้น อาจไม่มีเลยจนถึง ร้านค้าที่ทำการด้านบน ที่จุดกางเต๊นท์

ใช้เวลาเดิน 4 ชั่วโมง ก็ถึงหลังแปร นั่งนอนเล่นที่จุดนี้ เป็นชั่วโมง เพราะอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนเลย ลมพัดโชย ใบสนไหวไปไหวมา …ตอนนี้ รู้สึกว่าจะเริ่มชอบ ภูกระดึงหน้าร้อนแล้ว เพราะมันเงียบสงบมาก ได้อยู่กับธรรมชาติ ได้อยู่ตัวตัวเองที่แท้จริง

สรุปวันที่ผมเดินขึ้น มีนักท่องเที่ยว ที่เดินขึ้น 6 คน เป็นคนไทย 3 คน (รวมผมด้วย) และ ฝรั่ง 3 คน


กางเต๊นท์แถวนี้ แหล่ะคับ ใครร้านค้า บรรยากาศเงียบสงบมาก ข้างบนยังมีร้านขายอาหาร เปิดทำขายหลายร้าน ไม่ต้องห่วง เรื่อง อาหารการกิน อากาศก็เย็นๆ ผมว่าไม่ต่างจาก หน้าฝน แต่แค่ไม่เปียกชื้นเท่านั้น (ผมชอบ) เจอทากนิดหน่อย แต่บริเวณที่กางเต๊นท์ ไม่เจอเลย ไปเจอทาก แถวป้าย ผู้พิชิตภูกระดึง ใกล้ๆ อ่างเก็บน้ำ


เห็นเต๊นท์เยอะแบบนี้ คือ เต๊นท์เปล่าของร้านค้า ทั้งนั้น ร้านค้ายังเก็บ


หลังจากนั้น ก็เตรียมตัวไป ผาหมากดูก ดูพระอาทิตย์ตกดินกัน วันนั้น เดินไปคนเดียว วังเวง นิดๆ แต่โชคดีที่ ร้านค้าประจำผาหมากดูกยังเปิดขายอยู่

ช่วงที่ผมไปนั้น เป็นช่วงปลายเดือนเมษายน และเป็นคืนเดือนมืด เหมาะที่จะถ่ายทางช้างเผือกมาก เพราะไม่มีแสงจันทร์รบกวน ตั้งมือถือให้ปลุกต้อง ตี 1.30 เพื่อเตรียมตัวไปถ่ายดาวกัน จะพาไปถ่ายทางช้างเผือก ที่ริมอ่างเก็บน้ำ กัน

ถ่ายทางช้างเผือก ต่อเนื่อง จนถึงตี 4 จึงกลับไปนอนพักเอาแรง รอเวลาตี 5 ไป ผาอกแอ่น มีนักท่องเที่ยวเดินไปกัน ประมาณ 6 คน


บรรยากาศยามเช้า แสงสวยๆ บริเวณพื้นที่กางเต๊นท์


วันนี้ วางแผนจะไป ผาหล่มสัก แต่จะเปลี่ยนจากการเดินเท้า เป็น เช่าจักรยาน เป็นรุ่น ล้อโต ราคาปกติ 450 แต่ตอนนี้เป็น ช่วง Promotion  ราคาเหลือ 360 บาท


บอกตรงๆ คิดถูกมากที่เลือก เช่าจักรยาน แทนเดินเท้า ช่วยร่นระยะเวลาได้ มาก ติดใจสุดๆ

ผาเหยียบเมฆ

มาถึงผาหล่มสัก ประมาณ 4 โมง (จะถึงเร็วกว่านี้ ถ้าไม่ติดฝนที่สระอโนนาด ซะก่อน) .. นั่งเล่น นอนเล่นที่นี่ นับชั่วโมง ก็ไม่มีใครรบกวน ไม่ต้องต่อคิว เพราะไม่มีใครเลยตอนนี้ ชิว ชิว


จากผาหล่มสัก ปั่นจักรยาน กลับมาที่ ผาหมากดูก ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ชอบมาก จักรยาน


ระหว่างปั่นจักรยาน กลับจากผาหมากดูก ไป ที่ทำการ กางเต๊นท์ เห็นพระอาทิตย์กำลังตก แสงสวยมาก เลยเลี้ยวซ้าย ที่แยก ไปที่ลานพระพุทธเมตตา แสงสวยมาก

มนต์เสน่ห์ และความสวยงาม ความสงบ ของภูกระดึงหน้าร้อน กลายเป็น ฤดูที่ผมชอบไปแล้ว อากาศเย็นสบาย ต้นไม้ ใบไม้เขียวขจี ดอกไม้บานสวยงาม แต่ก็มีข้อแนะนำส่วนตัวว่า หากจะมาเที่ยว ภูกระดึงหน้าร้อน แนะนำว่าควรมาช่วง เดือนเมษายน เป็นต้นไป จนถึงปิดภูวันที่ 31 พฤษภาคม  โดยเฉพาะช่วงวันที่ 18-19 เมษายน ของทุกปี จะมีประเพณี สงกรานต์ สรงน้ำพระพุทธเมตตา บนยอดภูกระดึง